นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 334
ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง
เมนูกับน้ำเต้าหู้ปรุงรสหวานเค็มกำลังดี กินได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะอุดมด้วยใยอาหารและสารพัดวิตามิน
หน้าปลาตัวจริง จัดเต็มด้วยเนื้อปลาช่อนล้วนๆ ให้ประโยชน์จากโปรตีนย่อยง่าย ได้รสชาติเต็มคำ เป็นชีวจิตร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วยังมีประโยชน์แถมรสชาติอร่อยเกินร้อยด้วย
ทำกินเองในครอบครัวก็อร่อย หรือจะทำเลี้ยงแขกเหรื่อก็ประทับใจ
ส่วนผสม
ข้าวเหนียวกล้อง 3 ถ้วย
น้ำดอกคำฝอย (ดอกคำฝอยแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ แช่ในน้ำอุ่น 1 ถ้วย) 1 ถ้วย
น้ำดอกอัญชัน (ดอกอัญชันแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ แช่ในน้ำอุ่นจัด 1 ถ้วย) 1 ถ้วย
น้ำใบเตย (ใบเตย 10 ใบ ปั่นกับน้ำอุ่นจัด 1 ถ้วย คั้นเอาแต่น้ำ) 1 ถ้วย
น้ำเต้าหู้ 2 ถ้วย
ปลาช่อนแดดเดียว 1 ตัว
หอมเล็กซอยเจียว 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายไม่ขัดขาว 2 ถ้วย ถ้วยละ 1/3,1/4 ถ้วย
เกลือเม็ด 2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. แบ่งข้าวเหนียวกล้องเป็น 3 ส่วน ส่วนละ 1 ถ้วย แบ่งแช่ในน้ำสมุนไพรทั้งสามชนิดข้ามคืน หลังจากนั้น ตักขึ้น ล้างน้ำอีก 1 ครั้งเพื่อล้างสีส่วนเกินออก เทลงบนผ้าขาวบาง ให้สะเด็ดน้ำ
2. นำข้าวเหนียวกล้องไปนึ่งในซึ้งจนสุก ตักขึ้นใส่ชามพักไว้
3. ต้มน้ำเต้าหู้จนร้อน เติมน้ำตาลทรายไม่ขัดขาว 1/3 ถ้วย และเกลือลงไป คนจนน้ำตาลทรายไม่ขัดขาวและเกลือละลาย
4. มูนข้าวเหนียวกล้องที่เตรียมไว้ด้วยน้ำเต้าหู้ปรุงรสขณะที่น้ำเต้าหู้ยังร้อนอยู่ แล้วปล่อยไว้ให้น้ำเต้าหู้ซึมเข้าเนื้อข้าวเหนียวกล้อง
5. อบหรือย่างปลาช่อนแดดเดียวจนสุก แกะเอาแต่เนื้อปลามาโขลกจนฟู
6. คลุกเคล้าเนื้อปลาช่อนที่ได้กับน้ำตาลทรายไม่ขัดขาว ¼ ถ้วย และหอมเล็กเจียว ให้เข้ากันดี จัดข้าวเหนียวกล้องที่มูนน้ำเต้าหู้ปรุงรสจนได้ที่แล้วใส่จาน ตักหน้าปลาแห้งที่ได้โรยหน้า พร้อมเสิร์ฟ
Tips
1. เวลาแช่ข้าวเหนียวกล้อง ให้ใส่สารส้มลงไปนิดหน่อย จะทำให้ได้ข้าวเหนียวกล้องนึ่งเม็ดใส น่ากิน
2. หากปลาช่อนที่อบหรือย่างไฟแล้วยังไม่กรอบ หลังจากโขลกแล้ว ให้นำมาคั่วอีกครั้ง จะได้เนื้อปลาที่กรอบและหอมขึ้นด้วย
3. สามารถใช้ปลาสลิด กุ้งแห้งแทนปลาช่อนได้ หากเป็นกุ้งแห้ง ไม่ต้องย่าง ให้โขลกกุ้งแห้งจนฟู แล้วนำมาปรุงรสได้เลย
4. หน้าปลาแห้งนี้กินกับแตงโมแบบคนโบราณก็ชื่นใจ ได้ประโยชน์เช่นกัน
http://www.cheewajit.com/articleView.aspx?cateId=3

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น